วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เที่ยววัดล้านขวด

               
               ไปเที่ยววัดล้านขวดกันดีกว่า ของดีศรีสะเกษเฮากะมี!!!
              ตั้งอยู่ในเขตสุขาภิบาล สิ่งปลูกสร้างภายในตกแต่งด้วยขวดแก้วหลากสีหลายแบบนับล้านใบที่ชาวบ้านได้ช่วยกันบริจาค เป็นวัดที่มีลักษณะสวยงามแปลกตา โดยเฉพาะศาลาใหญ่ที่เรียกว่า ศาลาฐานสโม มหาเจดีย์แก้ว และนอกจากนี้ยังมีสิม (โบสถ์) อยู่กลางน้ำภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาว ซึ่งมีความวิจิตรงดงามมาก การเดินทาง จากศรีสะเกษไปอำเภอขุนหาญใช้ทางหลวงหมายเลข 211 และ 2111 ผ่านอำเภอพยุห์ อำเภอไพรบึงไปขุนหาญ ระยะทางประมาณ 61 กิโลเมตร
                เที่ยววัดล้านขวด

                ที่วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว หรือที่ชาวบ้านในอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษรู้จักกันดีในชื่อวัดล้านขวดที่เขาเรียก กันแบบนี้ก็เป็นเพราะว่า สถานที่ต่าง ๆ ภายในวัดล้วนแต่ถูกประดับประดาไป ด้วยขวด เริ่มตั้งแต่ทางเข้าวัดทั้งกำแพงซุ้ม ประตูโบสถ์ ศาลา หอระฆัง กุฏิ หรือแม้แต่ห้องน้ำ ก็ยังถูกตบแต่งด้วยขวดเช่นกันนอกจากความงดงามแปลกตาของขวดที่สลับสี และการวางลวดลายแล้ว เรา ยังทึ่งกลับความคิดในการนำฝาขวดมาปะติด จนได้เป็นภาพพุทธประวัติที่ไม่เหมือนที่ ใดอีกด้วยสิ่งเหล่านี้เกิดจากความคิดของพระครูวิเวกธรรมาจารย์ หรือหลวงปู่หลอด ท่านบอกว่า การนำขวดมาตกแต่งนั้น นอกจากจะประหยัดในเรื่องของการทาสีแล้ว ที่สำคัญขวดแก้วนั้น ยังแฝงไปด้วยคติคือ ความใสของแก้ว เมื่อกระทบแสงแดดแล้ว ทำให้เกิดแสงสว่างเหมือนแสงธรรมที่ควรบรรลุถึง สำหรับขวดไม่ว่าจะคว่ำลง หงายขึ้น หรือวางในแนวนอน ก็ล้วนแต่มีคติสอนใจทั้งนั้นที่วัดล้านขวดแห่งนี้นับเป็นอีกหนึ่งงาน สร้างที่มีเพียงแห่งเดียวในโลกก็ว่าได้ หากใครได้มีโอกาสผ่านมาจังหวัดศรีสะเกษแล้วละก็อย่าลืมแวะชมความงดงามที่ไม่เหมือนใครของวัดนี้กันนะ

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ของดีศรีสะเกษ



ชื่อผลิตภัณฑ์ : ผอบใบตาล
ที่มา
             คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.วัฒนธรรพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดศรีสะเกษ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2544
.
ผลิตภัณฑ์จากใบตาลเกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่เห็นคุณค่าของใบตาลซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น ความสวยงามของรูปทรง ความเหนียวของเส้นใน และสีที่สวยงามเป็นแรงบันดาลใจให้ นายล้อม พรเพชร และนางผี แก่นวงษา ชาวบ้านแทรง ตำบลห้วยสำราญ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกศา ได้คิดสานใบตาลเป็นของใช้ในครัวเรือนขึ้น โดยเริ่มจากเชี่ยนหมากพลู ตะกร้า กระเป๋า และผอบ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2528 นายพิศาล มูลศาสตร์สาทร ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษขณะนั้น จึงได้ส่งเสริมให้พัฒนาเป็นอาชีพเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวเป็นอาชีพเสริมได้เป็นอย่างดีและมีการพัฒนาให้ดีขึ้นจนถึงทุกวันนี้
 ผอบใบตาลของบ้านแทรงนี้เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป จะสานด้วยลายขัด ลายหนึ่ง สอดสายสีตามต้องการ ผอบใบตาลนี้สามารถใช้เก็บสิ่งของมีค่า เป็นของที่ระลึก และเป็นงานศิลปหัตถกรรมหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดศรีสะเกษ ผลิตกันมากที่บ้านแทรง บ้านกก ตำบลห้วยสำราญ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ